วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

มาออกแบบ Cover Photo ใน Facebook กันดีกว่า

มีแฟนเพจอยู่ไม่เท่าไหร่  เรื่องออกแบบ cover photo (หน้าปกใน facebook)  ก็แค่เติมตัวอักษรไปนิดหน่อย ให้พอสื่อสารกันรู้เรื่อง ส่วนออกแบบรูปภาพ หรือใด ๆ ดิฉันจนด้วยเกล้า   แต่ทว่า เทคโนโลยีปัจจุบันช่วยงานออกแบบให้ง่ายขึ้น และช่วยคนมีปัญหาเรื่องไอเดียตกแต่ง แบบดิฉันได้ง่ายขึ้น   วันนี้ผ่านไปเจอตัวช่วยให้สามารถออกแบบตกแต่ง Cover Photo ใน Profile ของ Facebook หรือ Facebook  Fan page ให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น เพิ่มความน่าสนใจ ชวนให้ผู้คนคลิ๊ก Like หรือติดตาม

 

แต่ง Cover photo ใน facebook

 

ตัวช่วยที่ดิฉันไปเจอเข้า  เป็นบริการฟรีของเวบไซต์ pagemodo  ที่มี Template สวย ๆให้เลือกใช้ สามารถอัพโหลดภาพ  เพิ่มข้อความลงไปใน Template ปรับแต่ง cover photo ใน Facebook ได้สบาย ๆ

 

ออกแบบ fanpage ให้เป็นเรื่องง่าย

 

บริการนี้ฟรีด้วยซิคะ  นอกจากบริการในการออกแบบตกแต่ง Cover photo (หน้าปกเฟซบุ๊ค) แล้วยังสามารถปรับแต่งการ post ใน facebook ได้ค่ะ  เข้าไปอ่านข้อมลเพิ่มหรือทดลองใช้งานปรับแต่ง Cover photo ใน facebook กันได้ที่ pagemodo

 

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

ตั้งค่าการแปลภาษาในวีดีโอของ Youtube

ตั้งค่าการอธิบายภาพใน Youtube
เป็นแฟน blackjat  หมอปีศาจ ตัวจริงอีกคน  แต่น่าเสียดายวีดีโอใน youtube ดันเป็นภาษาญี่ปุ่น  ก็เลยไปได้ความรู้ใหม่ บน Youtube เอามาร่วมแบ่งปัน   เป็นความรู้ใหม่  ใหม่จริง ๆค่ะ เพราะดิฉันพึ่งทราบไม่นานมานี้ว่า Youtube มีเมนูคำอธิบายภาพ ( cc caption) เป็นซับไตเติ้ลในวีดีโอได้หลายภาษาด้วย  แต่ใช้ได้กับบางวีดีโอที่มีบริการนี้นะคะ   ทุกครั้งที่เปิด Youtube หากมีปุ่ม cc ดังภาพ ก็จะสามารถเลือกคำอธิบายภาพ ( Subtitle) ได้  ทำให้ดิฉันสามารถเข้าใจวีดีโอ blackjat ที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ได้ด้วย subtitle ที่เป็นทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้เลือกใช้  จากเมนุ cc นี้เอง
การเลือก subtitle ใน youtubeเลื่อนลงมาด้านล่างของวีดีโอจะปรากฏไอคอน  การถอดเสียง  imageเมื่อคลิ๊กที่ไอคอนดังกล่าว จะปรากฏภาษาให้เลือกถอดคำอธิบายภาพ แต่ละวีดีโอก็มีคำอธิบายเป็นภาษาต่าง ๆแตกต่างกันไป  ลองเลือกดูสักภาษานะคะ ดิฉันทดลองเลือกภาษาอังกฤษ
เพิ่ม subtitle ใน youtube

ผลจะทำให้ได้ข้อความที่มาจากการถอดเสียงในวีดีโอ ( Subtitile) บน Youtube ที่กำลังเล่นอยุ่ ระบุเวลาและข้อความที่เล่นในวีดีโอให้เห็น สามารถคัดลอกข้อความดังกล่่าวได้ค่ะ   คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังเรียนภาษาเช่นเดียวกันกับดิฉัน  เรียนภาษาอังกฤษมาหลายปี ก็ยังพูดได้แบบ fish fish snake snake อยู่นั่นหล่ะ
girl






เปลี่ยนหน้าเวบเพจ HTML เป็น PDF หรือรูปภาพ Image

 

image

 

ปกติใช้งาน Print friendly สำหรับจับภาพหน้าเวบ ให้เป็นเอกสาร pdf ค่ะ เพราะมันตัดโฆษณาได้ แถมใช้งานง่ายบนเวบบราวเซอร์ Firefox ซึ่งดิฉันมักใช้เป็นตัวหลักในการเขียนบทความ …แต่วันนี้ได้กลับไปทดลองใช้ Google chrome อีกครั้ง ถึงแม้ Printfriendly จะใช้งานกับ Google chrome ได้แต่สายตาเหลือบไปเห็นส่วนขยาย (Extension ) อีกตัวของ Google chrome นั่นคือ iweb2x ที่สามารถเปลี่ยน url ไปเป็น pdf และ รูปภาพ( image) บน Google chrome หลังจากทดลองใช้งาน ก็นำมาเล่าต่อค่ะ

 

เปลี่ยนหน้าเวบไซต์ให้เป็น pdf หรือ รุปภาพ

 

ซึ่งการสร้างเอกสาร pdf จากหน้าเวบเพจนี้ สามารถเลือกได้หลายขนาด

 

เปลี่ยน url ให้เป็น pdf หรือ ภาพ

 

รูปแบบ (Format ) ของรูปภาพสามารถสร้างได้ทั้ง jpg,png,gif,tif,bmp,ppm,pgm

 

อ่านรายละเอียดและดาวน์โหลดส่วนขยาย ( Extension ) iweb2x ได้ที่   ดาวน์โหลด iweb2x

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

สารบัญไม่สามารถพิมพ์เป็นภาษาไทยได้ใน FlipAlbum

แก้ font ไทยใน flipalbum

 

ต่ออีกนิดสำหรับปัญหาการใช้งาน FlipAlbum โปรแกรมสำหรับสร้างอีบุ๊ค  ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับการศึกษาที่ ครูอาจารย์หลายคนนิยมใช้สอนและสร้างสื่อการศึกษา   ปัญหาที่่ว่าคือ ในหน้าสารบัญ  พอจะพิมพ์เป็นภาษาไทย กลับกลายเป็นภาษาต่างด้าว ขะยึกาขะยืออ่านไม่ออกซะอย่างงั้น  วิธีแก้ปัญหาไม่ยากค่ะ  ง่ายๆ ดังนี้

แก้ไขภาษาไทยในสารบัญของ flipalbum

 

1. คลิ๊กขวาที่ข้อความที่ต้องการแก้ไขในโปรแกรม FlipAlbum  เลือก Customize Contents

เปลี่ยน fonts ใน flipalbum

 

2. คล๊ิก Modify…

เปลี่ยน fonts ในโปรแกรมอีบุ๊ค flipalbum

 

3. เลือกเปลี่ยน font เป็น AnsanaUPC เพราะเป็น font ไทยค่ะ ต่อจากนั้นคลิ๊ก ok

เปลี่ยน fonts ใน flipalbum

 

4. คลิ๊ก ok

แก้ไข หน้าสารบัญเป็นภาษาไทย flipalbum

 

 

5. เรียบร้อยแล้วค่ะ fonts ไทยกลับมาใช้งานได้ในสารบัญสำหรับ FlipAlbum เรียบร้อยแล้วค่ะ

วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

สร้างโฟลเดอร์ย่อยให้เพื่อนอัพโหลดไฟล์ไปยัง Dropbox ของเราได้

โดยปกติดิฉันจะใช้บริการเวบประเภท Cloud ที่
Dropbox เป็นส่วนใหญ่  เป็นแหล่งเก็บไฟล์และแชร์ไฟล์กับเพื่อนและสมาชิก ทั้งในเวบบล็อกของตนและงานอื่น ๆ วันหนึ่งเกิดอยากทราบวิธีการให้เพื่อน สมาชิกสามารถอัพโหลดไฟล์มายัง Dropbox ที่ดิฉันเป็นสมาชิกอยู่  โดยที่เพื่อนไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก Dropbox  ไม่ต้องสมัครอะไรเพิ่มเติม เพราะเพื่อนหลายคน พอพูดถึงเทคโนโลยีต่างร้องยี้ทันที  บอกไม่ถนัด แค่ส่งอีเมล์ก็ยุ่งสำหรับเค้าเต็มที่   ค้นไปค้นมา จึงเจอวิธีการง่ายๆ ไม่ต้องยุ่งยาก  เพื่อนสมาชิกไม่ต้องใช้อีเมล์ ก็สามารถส่งไฟล์ไปยัง Dropbox ของเราได้โดยตรง น่าลองไหมหล่ะ ตามมาดูกันเถอะค่ะ
ตั้งค่าให้เพื่อนสามารถอัพโหลดไฟล์ไปยัง dropbox เราได้
วิธีการในการอัพโหลดไฟล์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเพื่อนสมาชิกไปยังกล่องข้อความออนไลน์ที่ Dropbox ที่ดิฉันจะขอนำเสนอคือบริการของเวบไซต์ Dropittome ค่ะ มีวิธีการสมัครเข้าใช้บริการดังนี้
1. เข้าไปเวบไซต์ DROPitTOme ,คลิ๊ก Register  ดังรูปด้านบน
ส่งไฟล์ไปยัง dropbox โดยไม่ต้องใช้อีเมล์
2. คลิ๊กที่ Register  อีกครั้งค่ะ  เพื่อสมัครเข้าใช้บริการส่งไฟล์ไปยัง dropbox
สมัครอัพโหลดไฟลืไปยัง dropbox
3. เติมข้อมูลที่จำเป็นในการสมัคร
    username  :  ชื่อผู้ใช้  เป็นภาษาอังกฤษนะคะ ,e-mail ที่ใช้สมัคร  ไม่มีการให้ยืนยันอีเมล์ password   :   สำหรับ สมัครเข้าใช้บริการ , Password repeat : กรอกรหัสผ่านอีกครั้ง   ,Upload password : password ตัวนี้เป็นรหัสผ่านที่จะให้กับเพื่อนสมาชิกที่ต้องการอัพโหลดส่งไฟล์ไปยัง Dropbox ค่ะ  เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จสิ้น คลิ๊ก Register

dropittome
4. ต่อจากนั้นจะปราฏหน้าเพจ ถามเพื่อความแน่ใจว่าจะให้ app  dropittome เข้าไปจัดการโฟลเดอร์ใน dropbox หรือไม่  คลิ๊ก allow ค่ะ  อ้อ !!! ลืมบอกไปว่า  ขั้นตอนนี้เราต้อง login เข้าใช้งาน dropbox เราก่อนด้วยนะคะ
dropbox
5. รอสักครู่ app dropittome จะสร้างโฟลเดอร์ใน dropbox ของเรา ชื่อว่า DROPitTOme ในกล่อง Dropbox เมื่อมีสมาชิกอัพโหลดไฟล์ส่งมาให้   ไฟล์ทั้งหมดที่อัพโหลดจะอยู่ในโฟลเดอร์แห่งนี้ค่ะ
dropittome อัพโหลดไฟล์ไปยัง dropbox

6 ต่อจากนั้นจะพบข้อความแจ้งขอบคุณ และ แจ้ง Url สำหรับใช้ในการ upload ไฟล์ จากภาพ url สำหรับอัพโหลดส่งไฟล์ไปยัง dropbox ของดิฉันชื่อว่า www.dropitto.me/aphsara
อัพโหลดไฟล์ไปยัง dropbox
7. เมื่อต้องการให้สามาชิกหรือเพื่อน อัพโหลดไฟล์ส่งให้ ก็ copy url นี้พร้อมทั้ง upload password ที่สร้างขึ้นในขั้นตอนที่ 3 เค้าเหล่านั้นก็จะสามารถส่งไฟล์มาอัพ Dropbox ของเราได้ทันที โดยไม่ต้องสมัครเข้าใช้บริการแต่อย่างใด
อัพโหลดไฟล์ไปยัง dropbox
8.เมื่อต้องการอัพโหลด คลิ๊กเรียกดู เลือกไฟล์  ที่ต้องการอัพโหลด
upload files to dropbox
9. คลิ๊ก Upload เพียงเท่านี้  ไฟล์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆ หรือเหล่าสมาชิกของเรา ก็จะสามารถส่งไฟล์ไปยัง dropbox โดยที่ไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่ต้องใช้ email กันได้แล้วจ้า …ไม่ยากใช่ไหมละคะ ยิ้ม


วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

ส่งงาน E-BOOK ที่สร้างด้วย FlipAlbum ให้คุณครูแบบง่ายๆ

สักเดือนก่อนเห็นหลานสาว เรียนอยู่ ม.5 มาหา  บอกให้สอนทำ E-book ขอแบบ FlipAlbum  เลยย้อนถามกลับไปว่า แล้วครูเอ็งเค้าไม่สอนรึ ? คำตอบกลับมาบอกว่าไม่  ครูเค้าให้ทำเอง ? ..สอนแบบนี้ก็ง่ายดี อยากทำแบบนี้ได้บ้าง …แต่จนแล้วจนรอดก็นึกอนาถคงไม่สามารถตัดใจทำได้ เด็กในชนบท คอมพิวเตอร์ก็ไม่มี อินเตอร์เน็ตอย่าถามถึง ใช้ที่โรงเรียน ก็ไม่เท่าไหร่ หรือไม่สามารถใช้ได้เลย  แต่มันคือนโยบายการศึกษา ให้เด็กเรียนรู้หาเอง ก็ก้มหน้าก้มตาทำไปเถอะลูกเอ๊ย !!!! ผ่านมาไม่กี่วันก็มีคำถามมาที่ Fanpage ถึงการบันทึกไฟล์งาน FlipAlbum ส่งครู ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ขอบันทึกเรื่องนี้ไว้ร่วมแชร์ กับน้อง ๆ ไว้ดีกว่า

ไฟล์งาน flipalbum

สำหรับวิธีการบันทึกไฟล์งาน FlipAlbum ที่นำมาสร้างเป็น E-book เห็นเด็ก ๆ หลายคนใช้คำสั่งบันทึกแล้วเก็บใส่แผ่น มันก็จะได้ไฟล์งานนามสกุล *.opf ไฟล์เดียว ๆ ไป ซึ่ง เมื่อไปส่งคุณครู รับรองว่ามันเปิดไม่ได้จ้า…วิธีการบันทึกไฟล์งาน E-book ส่งคุณครู ซึ่งโดยส่วนมากคุณครูมักให้ไรท์ใส่แผ่นซีดีไปส่ง ต้องมีวิธีการดังนีค่ะ

ส่งงาน flipalbum ให้ครู

1. หลังจากบันทึกไฟล์งาน E-book ใน FlipAlbum ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว  ให้ไปที่เมนู Create  Album CD

การส่งงานไฟล์ e-book ใน flipalbum

2. เลือก Create a new  Album cd หากสร้างไฟล์งานเดียวเลือก single album on cd แต่ถ้าเกิดมีหลายไฟล์งานเลือก Multiple albums on cd  ต่อจากนั้น คลิ๊ก ok

ส่งการบ้าน e-book ใน flipalbum

3. เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการจัดเก็บไฟล์งาน E-book ต่อจากนั้นคลิ๊ก Create

4. รอสักครู่ให้กระบวนการบันทึกไฟล์งาน E-book ดังกล่าวเสร็จสิ้น  จะแสดงหน้าต่างบอกการทำงานครบ 100 เปอร์เซ็นต์ให้ทราบ

image

5. ไปทดลองเปิดดูไฟล์งานใน โฟลเดอร์ที่ตั้งค่าจากขั้นตอนที่ 3 จะพบโฟลเดอร์ AlbumCD มีทั้งหมด 4 ไฟล์ในโฟลเดอร์นี้    ทดลองดูผลงานตนเอง ด้วยการคลิ๊กที่ไฟล์ startcd.exe ดุค่ะ นั่นหล่ะคือไฟล์ e-book ที่เราสร้างขึ้น

6. ทำการไรท์ทั้งโฟลเดอร์ (AlbumCD) จากขั้นตอนที่ 5 ลงแผ่นซีดี  ซึ่งอาจจะใช้ Nero ในการเขียนแผ่น  ตามขั้นตอนนี้เลยค่ะ

เขียนไฟล์งาน ebook ลงแผ่นซีดี

7. ขอยกตัวอย่างการไรท์แผ่นโดยใช้ Nero นะคะ เมื่อดับเบิ้ลคลิ๊กเปิดโปรแกรม Nero > nero express>data  cd

เขียนไฟล์งาน e-book ด้วย nero

8.คลิ๊ก add  เพื่อไฟล์ e-book ที่สร้างขึ้นทั้งโฟลเดอร์ดังรูปด้าน บน ต่อจากนั้นคลิ๊ก Next

ส่งการบ้านอีบุ๊คด้วยการเขียนลงแผ่นซีดี

9. นำแผ่นเปล่าใส่ลงไปในเครื่องอ่าน  ต่อจากนั้น คลิ๊ก Burn รอจนกระทั้งการ burn ครบ 100 เปอร์เซ้นต์  เป็นอันเสร็จกระบวนการเขียนไฟล์งาน E-book จาก FlipAlbum ลงแผ่นแล้วค่ะ

ไม่ยากจนเกินไปนะคะ  ทดลองตามขั้นตอนดูค่ะ รับรองส่งการบ้าน e-book จาก FlipAlbum ได้แน่นอนจ้า…