การลบข้อมูลในแผ่น CD-RW ด้วย NERO 7

ได้ซื้อแผ่นซีดีประเภท แผ่น CD-RW ไว้เยอะทีเดียว  ครั้น burn ไฟล์งานไปได้แล้วเกิดฉุกคิด  อยากเพิ่มไฟล์ข้อมูลลงไปในแผ่นซีดีดังกล่าวอีก  จะได้จัดเป็นระบบระเบียบในแต่ละแผ่น ให้ครบถ้วน   ดังนั้นดิฉันก็เลยแก้ปัญหาด้วยการ Format  แผ่นดังกล่าวใหม่  แล้วก็ Burn อีกทีให้ครบทุกไฟล์งาน เนื่องจากแผ่น CD –RW เป็นแผ่นที่สามารถ เขียนแผ่นซ้ำ ๆ ได้นั่นเอง  เมื่อได้ทดลอง Format  แผ่น หรือ ลบ (Erase )ไฟล์งานในแผ่น CD ประเภท CD-RW  จึงนำวิธีการมาเผยแพร่บนเวบบล็อก เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ บ้างค่ะ

การลบข้อมูล (Erase) จากแผ่น CD-RW ด้วย Nero Burning Rom

 

                                              รูปที่ 1 หน้าต่างโปรแกรม Nero  7

1. เปิดโปรแกรม Nero ขึ้นมาคลิ๊กเลือก  Extras >Erase CD

2. ใส่แผ่น CD-RW เข้าไปใน CD/DVD ไดร์ฟในเครื่องคอมพิวเตอร์

3. จะปรากฏกรอบข้อความ ให้เลือกลักษณะการลบข้อมูล

- Choose recorder : เลือก ไดร์ฟสำหรับ erase แผ่น CD-RW

- Full-erase rewritable disc เป็นการลบข้อมูลจริงๆ คล้ายกับการฟอร์แมทแผ่นดิสก์ หรือ ฮาร์ดดิสก์ จะทำให้ข้อมูลถูกลบล้างออกไปทั้งหมด จะใช้เวลาลบนานหลายนาทีเหมือนกัน

- Quickly-erase rewritable disc เป็นการลบข้อมูลแบบเร็ว โปรแกรมจะยังไม่ลบข้อมูล ออกจากแผ่นจริงๆ เพียงแต่ทำเครื่องหมายไว้ว่าไฟล์นั้นๆ ถูกลบไปแล้ว

ถ้าเป็นการใช้งานครั้งแรก ก็ควร เลือกแบบ Full erase แล้วคลิกปุ่ม Erase เพื่อเริ่มต้นทำงาน

3. หลังจากลบเสร็จแล้ว ก็จะดีดแผ่นออก ก็จะได้แผ่นเปล่าไว้สำหรับเขียนข้อมูลต่อไป

สำหรับการใช้งานแผ่น DVD-RW หรือ DVD+RW ซึ่งเป็นแผ่นที่สามารถเขียนซ้ำและลบได้ เหมือนแผ่น CD-RW วิธีการใช้งานในการฟอร์แมทก็เชนเดียวกันกับ CD-RW เช่นกัน

แต่งบางส่วนของภาพให้เบลอเพื่อ Sensors ด้วย Photoscape

อ่านข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์แล้วสลดใจ   ในเนื่อหาข่าวมีคดียายฆ่าหลานตนเอง   เนื่องจากเป็นคดีฆ่ากันตายจากคนใกล้ชิด  อ่านแล้วให้หดหู่   สังคมไทยเปลียนไปมากแล้วจริง ๆ  ในหน้าหนังสือพิมพ์มีการทำใบหน้าของยายไม่ชัด  ให้เป็นเบลอ ๆ ไว้  เพื่อปกปิดอำพราง  เมื่อให้วิธีการทำภาพใบหน้าให้ blur ดังในรูป  จึงนึกถึงความสามารถของ Photoscape ขึ้นมาได้  มันคือความสามารถในการแต่งภาพโดยใช้เครื่องมือ (Tools) โมเสค  ซึ่งจะช่วยให้ได้ภาพบางสวนเบลอ เป็นการ sensors รูปภาพนั่นเอง

ตามมาดูวิธีการสร้างภาพ sensors แบบง่าย ๆ ด้วยโปรแกรม PhotoScape กันค่ะ

1. เปิดโปรแกรม Photoscape ไปที่เมนู แก้ไขรุปภาพ

2. ลากรูปภาพที่เราต้องการทำให้เบลอเพื่อ sensors มาวางตรงกึ่งกลางหน้าโปรแกรม บริเวณทำงาน ดังรูปที่ 1

3. ที่เมนู Tools คลิ๊กที่ โมเสค > เลือกขนาดของโมเสค สูง กลาง ต่ำ  ภาพ jitter

4. เลือกขนาดของโมเสคได้แล้วลากเมาส์มาครอบพื้นที่ในภาพที่เราต้องการให้เป็นภาพเบลอ

5. เมื่อปล่อยเมาส์  ภาพบริเวณที่ถูกครอบก็จะถูก sensor เรียบร้อยแล้วค่ะ

ทั้งหมดเป็นวิธีการแต่งภาพแบบ Sensor ด้วยวิธีง่าย ๆ ด้วย ฟรีแวร์ Photoscape เลือกนำไปปรับใช้กันดูนะคะ

Back up และ Download รูปภาพจาก Picasa web Albums

โดนสกัดดาวรุ่งอย่างแรง จากการที่ External Harddisk เกิดอาการไม่สามารถอ่านข้อมูลได้  ข้อมูลมากมายในนั้น มีอันได้อันตรธานหายไปในพริบตาม   ส่งร้านเคลมก็ไม่ได้  อาการเซ็งในจิตเกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้  เมื่อแก้ปัญหาอะไรไม่ได้แล้ว  ก็เลยต้องทะยอยค้นหาข้อมูลเดิม ๆที่เคยเก็บไว้   ข้อมูลรูปภาพหลายๆ รูป  เคยใช้วางแปะกับบทความในเวบเวบบล็อก  บางรูปอัพโหลดใน Picasa web แล้วส่งให้เพื่อน  ดังนั้น วันนี้ก็เลยเข้ามาค้นเจอรุปภาพเก่า ๆ ทีี่จำเป็นต้องใช้งาน  คร้นเจอหลายๆ รูป ค่อยยิ้มออกบ้าง อย่างน้อยก็เจอรูปเก่า ๆ บ้าง   ต่อมาจึงค้นหาวิธีดาวน์โหลดข้อมูลรูปภาพเหล่านั้น   ค้นเจอวิธีดาวน์โหลดรูปภาพจาก Picasa web album ง่าย ๆ เอาจึงเก็บมาร่วมแชร์ความรู้บทเวบบล็อกกันค่ะ

วิธีการ Back up และ Download ไฟล์รูปภาพจาก Picasa web Album

1. Login เข้าใช้บริการจาก Google account คลิ๊กที่มุมบนเวบบราวเซอร์  จะพบรายละเอียดของ Account ของเรา   คลิ๊กที่การตั้งค่าบัญชี

2. ที่หน้าต่างการตั้งค่าบัญชีให้คลิ๊กที่ เปิดเสรีข้อมูล

3. รอสักครูจะปรากฏเมนูมาให้เราเลือกดาวน์โหลดข้อมุลของเรา   ให้คลิ๊กเลือก ดาวน์โหลดรูปภาพ Picasa web album ของคุณ

4. Google จะถามรหัสผ่านเพื่อเป็นการแสดงตนในการดาวน์โหลดข้อมูลอีกครั้ง ต่อจากนั้นจะปรากกฏหน้าต่าง Take out ในการแสดงผลข้อมูลจาก Picasa web Albums   คลิ๊ก สร้างข้อมูลที่เก็บถาวร

5. ขั้นตอนถัดมา ให้รอ Picasa web albums กำลังประมวลผล  เพื่อจะเริ่มดาวน์โหลดข้อมูล  จะช้าหรือไวขนาดไหน ขึ้นอยู่กับข้อมูลของเรา  เมื่อประมวลผลเรียบร้อยจะขึ้นสถานะให้เราดาวน์โหลด  โดยคลิ๊ก ดาวน์โหลด

แค่นี้ก็จะสามารถสำรองข้อมูลรูปภาพจากเวบ Picasa web Album เก็บไว้ใช้งานในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้แล้วค่ะ

การ Burn ไฟล์เสียงประเภท cda ลงแผ่น CD

พี่ที่ทำงาน รบกวนให้ช่วย burn เพลงลงแผ่นซีดี ครั้นเปิดมาแล้วใช้ Nero ในเขียนแผ่น ผลปรากฏว่า Nero แจ้งว่าไฟล์ไม่สนับสนุน  ก็เลยได้กลับมาเปิดดุคุณสมบัติของเพลงที่นำมาเปิด  ปรากฏว่ามันเป็นไฟล์เพลงมีนามสกุล .cda ดิฉันเองไม่ค่อยได้เจอไฟล์เพลงประเภทนี้  จึงได้ค้นหาว่ามันคือไฟล์เพลงประเภทใด แล้วต้องไรท์ลงแผ่นอย่างไร  จึงได้ทราบว่าไฟล์นามสกุล .cda ของแผ่น CD เพลงจะมีลิขสิทธิ์มาด้วย แต่ก็สามารถหลีกเลี่ยงเพื่อนำมาทำเป็น cd เพลงส่วนตัวด้วยการใช้วิธี แปลงไฟล์ .cda ไปเป็นไฟล์ .wma  ซึ่งดิฉันทดลองใช้โปรแกรม JetAudio ปรากฏว่าสามารถ burn ไฟล์ cda ดังกล่าว และนำไปให้รุ่นพี่ที่ทำงานได้สำเร็จ  ตามมาดูวิธีการกันหน่อยค่ะ

 

 

                         รูปที่ 1  หน้าต่างแสดงโปรแกรม JetAudio

1. เปิดโปรแกรม JetAudio ขึ้นมา คลิ๊กที่เมนู Rip CD  ดังรูปที่ 1

 

                              รูปที่ 2  แสดงหน้าต่างการตั้งค่าการ rip cd ด้วย Jetaudio

 

2. จะปรากฏหน้าต่างให้ตั้งค่าเพื่อทำการ rip ไฟล์เสียงประเภท cda โดย  soourc drive หมายถึง  drive ที่เก็บไฟล์เพลงทีเราต้องการ rip ดิฉันเลือก จาก Drive f เพราะเพลงที่ต้องการ rip อยู่ที่ Drive f ค่ะ

3. Album title,Album artist ,Genre ค่าต่าง ๆ เกี่ยวกับเพลงที่ต้องการ rip จะเติมหรือไม่เติมก็ได้

4. Target File Naming เป็นชื่อของไฟล์หลังการแปลง ว่าต้องการให้แสดงชื่อไฟล์ในรูปแบบใด

5. Folder เป็นแหล่งเก็บไฟล์ที่แปลงเสร็จสิ้นแล้ว

6. Output format เป็นประเภทของไฟล์หลังจากการแปลงเสร็จ ให้เรากำหนดค่าได้ตามต้องการ แต่ในกรณีนี้ดิฉันต้องการนำมา burn ลงแผ่นซีดีก็เลยเลือกประเภท ไฟล์เสียงเป็น wav

7. Rip   continuous selected tracks as one file ใช้ในกรณีที่ต้องการแปลงไฟล์ที่เลือกทั้งหมดให้ต่อเนื่องเป็นไฟล์เดียวตลอด

8  เลือกไฟล์ที่ต้องการแปลง

 

 

                              รุปที่ 3 เมนุในการเริ่ม ripping

9. หลังการตั้งค่าเสร็จสิ้นให้คลิ๊ก Start เพื่อเริ่มทำการ rip ไฟล์เพลงประเภท cda

 

                            รูปที่ 4  แสดงหน้าต่าง   Add to album

 

10. เมื่อครบ 100 เปอร์เซ้นต์  จะปรากฏหน้าต่าง add to album ดังรูปที่  4  ให้คลิ๊ก No ได้เลย

                  

               รูปที่ 5 รูปแสดงไฟล์ที่ผ่านการ rip ด้วยโปรแกรม JetAudio ในโฟลเดอร์ที่ตั้งไว้

11. ลองมาเปิดดุผลงานจากการ rip cd ด้วยโปรแกรม jet audio ตามโฟลเดอร์ที่เราตั้งค่าใน Out put ไว้ตามข้อ   5 ก็จะปรากฏชื่อไฟล์เพลงที่นามสกุล .wav เรียบร้อยค่ะ

 

 

                               รูปที่ 6 เขียนไฟล์เพลงด้วยโปรแกรม Nero

12. หลังจากได้ไฟล์เพลงประเภท wav เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถทำการ burn ไฟล์เสียงเพลงเหล่านี้ด้วยโปรแกรม Nero  ได้แล้วค่ะ  หรืออาจจะใช้โปรแกรม JetAudio ในการ burn เลยก็ได้

ตั้งค่าการแสดงผลหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็น 2 หน้าจอใน Windows 7

เมื่อได้ซื้อสายมาต่อจากคอมพิวเตอร์ส่งภาพไปยังจอทีวี   ก็จำเป็นต้องตั้งค่าการแสดงผลไปยังจอภาพที่ทีวีเพิ่มด้วย ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่มีการแสดงผลที่จอทีวี  ซึ่งวิธีการนี้เป็นการตั้งค่าการแสดงผลจากเครื่องคอมพิวเตอร์  ไปยังอุปกรณ์อื่่น ๆ เช่น จอทีวี ,โปรเจคเตอร์,จอเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น  ซึ่งมีวิธีการในการตั้งค่าการแสดงผลในระบบปฏิบัติการ windows 7 ง่าย ๆ ดังนี้

                                                  รูปที่ 1 หน้าต่างแสดงผล start

วิธีแรกในการตั้งค่าการแสดงผล 2 หน้าจอจากคอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัติการ windows 7

1. ปุ่ม start > control panel

                                                     รุปที่ 2 หน้าต่าง Control panel

2. คลิ๊กที่ Display

                                                 รูปที่ 3 การตั้งค่าการเชื่อมต่อ

3. คลิ๊กที่เมนู  connect to projector 

                                          รูปที่ 4  เลือกการเชื่อมต่อเป็น Duplicate

4. ต่อจากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง ให้เลือกการตั้งค่าการแสดงผล หน้าจอ  ให้คลิ๊กเลือก Duplicate  รอสักครูภาพจากจอคอมพิวเตอร์ของเราก็จะไปปรากฏที่อุปกรณ์ที่เรานำมาเชื่อมต่อแล้วค่ะ

วิธีที่  2 ในการตั้งค่าการแสดงผล 2 หน้าจอจากคอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัติการ windows 7

                                                   รูปที่ 5 คลิ๊กขวาที่หน้าจอ Desktop

1 คลิ๊กขวาที่ว่าง ที่ใด สักแห่งหนึ่งในหน้าจอ Desktop แล้วเลือก Screen resolution

                                             รูปที่ 6  หน้าต่าง Change the appearance

2. คลิ๊กเลือก Connect to projector

3. รอสักครู่จะปรากฏหน้าต่างให้ตั้งค่าการแสดงผล output ดังรูปที่  4 ให้คลิ๊กเลือก Duplicate แล้วคลิ๊ก apply

รอสักครู่  ภาพจากจอคอมพิวเตอร์ของเรา ก็จะไปปรากฏยังอีกจอของอุปกรณ์ที่เราเชื่อมต่อแล้วค่ะ

จับภาพ snapshot วีดีโอด้วย Windows Live movie maker

เคยนำเสนอการใช้งานโปรแกรม Windows Live movie maker ในการนำไฟล์งานนำเสนอ Power point แปลงเป้นไฟล์ Video เคลื่อนไหว แล้วนำเสนอบน Youtube มาแล้ว  วันนี้ลองมาดูความสามารถพิเศษอีกอย่างของโปรแกรม Windows Live movie maker ซึ่งต้องบอกว่าฟรีแวร์ ก็สามารถทำได้ดี พอ ๆ กับ Shareware หลาย ๆ ตัวทีเดียว  ความสามารถที่จะนำเสนอวันนี้คือ  ความสามารถในการจับภาพ (snapshot) วีดีโอเคลื่อนไหว เป็นภาพนิ่งค่ะ  ความละเอียดที่ได้จากการจับภาพด้วยวิธีนี้จะดีกว่าการใช้วิธีครอบแล้วตัด หรือการ print screen  ตามมาดูวิธีการใช้งานกันนะคะ

การจับภาพวีดีโอเคลื่อนไหวเป็นภาพนิ่งด้วยโปรแกรม Windows Live movie maker

1. คลิ๊กเพิ่มวีดีโอและรูปภาพ เป็นการนำวีดีโอที่ต้องการจับภาพ (snapshot) มาเปิดให้แสดงผล

2. คลิ๊กเลือกวีดีโอที่ต้องการนำมาแสดง

3. คลิ๊กเปิด

 

4.ให้คลิ๊กเล่นวีดีโอ  พอไปถึงบริเวณที่เราต้องการจะจับภาพ ให้คลิ๊ก pause เพื่อให้ทำการหยุดเล่น

5. คลิ๊ก สแนปชอต

6 จะปรากฏหน้าต่างสำหรับบันทึกภาพที่จับได้ จากหน้าจอวีดีโอ  ให้เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการจัดเก็บ

7.เลือกบันทึกภาพที่ได้  หรืออาจจะเปลี่ยนชื่อภาพเคลื่อนไหวนั้นด้วยก็เป็นได้

เรียบร้อยแล้วค่ะ ทั้งหมดคือวิธีการในการใช้งานโปรแกรม Windows Live movie maker ในการจับภาพ (snapshot)เคลื่อนไหวจากวีดีโอ แบบง่าย ๆ จ้า….

การนำ Mp3 จากเวบ Box ขึ้นเล่นออนไลน์ใน Web site หรือ Weblog

 

เวบฝากและแชร์ไฟล์อีกแห่งที่ น่าลองเข้าไปใช้บริการคือ Box ที่นี่เป็นแหล่งที่ให้พื้นที่เก็บไฟล์ถึง  5GB นอกจากนั้นยัง Sync กับเครื่องคอมพิวเตอร์และพื้นที่เก็บไฟล์ที่ Box ได้อีกด้วย  พร้อมหลากหลาย application ที่ Box ให้บริการ เช่น Google app,Box for ipad,box for android เป็นต้น

เมือครบครันความสามารถเช่นนี้  วันนี้ก็เลยนำคุณสมบัติพิเศษมาเสนอกับเหล่าเวบมาสเตอร์  มันคือความสามารถในการแสดงไฟล์ออนไลน์  เช่น ไฟล์เพลง mp3 และ ไฟล์เอกสารเป็นต้น  โดย Box สนับสนุนความสามารถในการเล่นไฟล์ mp3  โดยให้บริการ Embed code เพื่อนำไปวางในหน้า Web site หรือ Weblog  

โดยเมื่อมีการอัพโหลดไฟล์เสียง mp3 ขึ้นเวบ box ให้ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์เสียงนั้น ๆ

สังเกตุมุม ซ้ายมือ จะปรากกฏ สัญลักษณ์ ให้คลิ๊กที่ Icon ดังกล่าว

หลังจากนั้นให้ Copy embed code ไปวางในหน้าเวบไซต์หรือเวบบล็อก ในส่วนของ html โค้ดได้เลยจ้า

 

การนำเพลง Mp3 จาก 4shared เล่นบนเวบไซต์หรือเวบบล็อก

เนื่องจากเวบไซต์ 4shared.com  เป็นเวบที่ให้บริการรับฝากไฟล์ที่มีพื้นที่การใช้งานถึง 10GB  แถมยังใช้งานง่าย  เพราะมี 4shared desktop ที่เป็น application ขนาดจิ๋ว ทำให้เราอัพโหลด หรือจะ sync ฝากผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ไปยัง เวบฝากไฟล์ 4shared เราเลยก็เป็นได้   ดังนั้นเมื่อใช้งานง่าย  ดิฉันจึงมีไฟล์หลายประเภทเก็บไว้แชร์   แต่ที่น่าขำ คือ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า   นอกจากสามารถแชร์ไฟล์  แชร์ทั้งโฟลเดอร์ใน 4shared แล้ว ดิฉันยังสามารถนำเพลงที่อัพโหลดฝากไว้กับ 4shared สามารถนำมาเล่นออนไลน์ในเวบบล็อกแห่งนี้ได้ทันที
เมื่อทราบก็เลยต้องลอง วิธีการในการนำไฟล์เพลง mp3 จากเวบ 4shared มาเล่นบนเวบมีวิธีการคือ   เวบ 4shared อนุญาติให้สามารถใส่ Embed code เพื่อนำไปฝังในเวบได้


                        รูปที่ 1 หน้าต่างแสดงการเล่นไฟล์ mp3 จากเวบ 4shared
จากรูปที่ 1 ทุกครั้งที่เรา ค้นหาไฟล์เสียง เมื่อคลิ๊กเข้าไปดูจะปรากฏดังรูป   และมองดูด้านข้าง  ซ้ายมือจะปรากฏแบบนี้    </>  เมื่อคลิ๊กเข้าไป  จะปรากฏ Embed code



                รูปที่ 2 การ Copy embed code ไปใช้งานกับเวบไซต์หรือเวบบล็อก
สำหรับนำไปวางในเวบไซต์   เวบบล็อก เพื่อเล่นออนไลน์ได้ทันที  โดยวางในส่วนของ Html code




  รูปที่ 3   แสดงการเลือกไฟล์ mp3 เพื่อนำมาเล่นออนไลน์จาก Folder ของตนใน 4shared

ดังนั้นเหล่า Webmaster ที่ต้องการ Host ฝากไฟล์ฟรี ๆ อาจจะติดใจ 4shared ก็เป็นได้  เพราะสามารถอัพโหลดฝากไฟล์ได้ทุกประเภท  แถมยังสามารถนำไฟล์เพลง mp3 ขึ้นเล่นออนไลน์ในเวบของตนจาก Embed code   โดย เมื่อต้องการจะนำไฟล์เพลงใด เล่น ออนไลน์  ก็ติ๊กเครื่องหมายถูกหน้า ไฟล์ mp3 นั้น ๆ ดับเบิ้ลคลิีก  ไฟล์เพลงดังกล่าวจะ เริ่มต้นเล่น  ดังรูปที่ 1  เมื่อทดสอบฟัง mp3 ครบถ้วนสมบูรณ์  ก็คลิ๊ก <> เพื่อ Copy embed code
ในการแสดงผลการเล่น mp3 ผ่านเวบ เราสามารถกำหนดขนาดของ เครื่องมือที่เล่นดังนี้

 <embed src=http://www.4shared.com/embed/718071091/e398b38a

  width="420" height="250" allowfullscreen="true" allowscriptaccess

="always"></embed>

กำหนดค่า width  นั่นคือความกว้างของเครื่องมือเล่น mp3

กำหนดค่า height  นั่นคือความสูงของเครื่องเล่น mp 3
ตัวอย่างการนำไฟล์ mp3 จากเวบ 4shared ขึ้นเล่นใน เวบบล็อก

ปัญหาแจ้ง Adobe Flash plugin has crashed ใน Firefox

หลังจากทนกับปัญหาขณะที่ดูวีดีโออย่างสนุกสนาน  ก็จะมีข้อความแจ้ง Error ที่ว่า The Adobe  Flash plugin has crashed. ในเวบบราวเซอร์ Firefox มาได้พักใหญ่ ๆ วันนี้จึงได้ค้นหาวิธีแก้ปัญหาแจ้ง Error ซะที    หลังจากทดลองคลิ๊ก Send crash report จึงได้เจอกับเวบช่วยเหลือของ Firefox แนะนำวิธีการแก้ปัญหา ข้อความแจ้ง error ที่ว่า Adobe  flash plugin has crashed. เกิดเนื่องจาก ปัญหาของ Flash  version 11.3. ที่ยังไม่สมบูรณ์พอ  ทำให้ผู้ใช้หลายคนเจอปัญหา ดังนั้นวิธีการแก้ไข ให้ ผู้ใช้  Uninstall flash version 11.3 และ download Flash 10.3 หรือไม่ก็ Flash 11.2.  ใช้แทน

ขั้นตอนที่ 1 ให้ Uninstall Flash version 11.3 

1. ดาวน์โหลด  uninstall_flash_player.exe  สำหรับใช้ในการ uninstall Flash

2. หลังการดาวน์โหลดให้ double click เพื่อทำการ Uninstall  Flash ในขณะนี้ให้ปิดเวบบราวเซอร์ ทุกตัว Firefox,chrome,internet explorer ฯลฯ

ขั้นตอนที่ 2 ติดตั้ง  Flash player  version 10.3 หรือ 11.2 แทนที่

3. หลังการ Uninstall Flash  11.3 เสร็จสิ้นให้ download Flash 10.3 ที่นี่ install_flash_player_10_plugin.exe    หรือไม่ก็ Flash 11.2. โดยค้นหาเพิ่มเติมจากเวบไซต์Adobe จากลิงค์    Flash Player Archive page  ดิฉันขอยกตัวอย่างการติดตั้ง Flash 10.3

4. หลังการดาวน์โหลดให้ดับเบิ้ลคลิ๊กเพื่อทำการติดตั้ง Flash 10.3  ก่อนการติดตั้งให้ปิดเวบบราวบราวเซอร์ทุกตัว เพื่อให้ Flash 10.3  ทำการติดตั้ง

5.เมื่อทำการติดตั้ง Flash 10.3  เสร็จสิ้น ก็เริ่มต้นใช้งาน Firefox ใหม่ได้ทันที  แค่นี้ก็จะหมดปัญหา error กวนใจได้แล้วค่ะ