บันทึกวีดีโอ JW Player แสนง่ายด้วย Firefox

เคยเรียนรู้การดาวน์โหลดไฟล์วีดีโอประเภทที่เล่นในรูปแบบของ JW player มาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นใช้งานโปรแกรม ดาวน์โหลดวีดีโอจากเวบ JW PLAYER ด้วย Getflv   หรือฟรีโปรแกรมอย่าง การใช้งานโปรแกรม Steam Transport ดาวน์โหลดคลิป JW Player  วันนี้เลยนำเทคนิคแสนง่ายที่ใช้ดาวน์โหลดวีดีโอประเภท  jw player มาฝากกันอีกวิธี เป็นทางเลือกให้นำไปเลือกใช้ค่ะ   นั่นคือการดาวน์โหลดวีดีโอประเภท jw player  ด้วยการใช้เวบบราวเซอร์ Firefox ไม่ต้องติดตั้งส่วนเสริม ไม่ต้องดาวน์โหลดอะไรต่อมิอะไรมาติดตั้งให้ยุ่งยาก

1.วิธีการก็เพียงแต่ ไปปิดกั้นการทำงานของ  Plugins ของ Firefox โดยไปที่แทบเมนู > addon <plugins>Shockwave  Flash > never activate

2. เข้าไปที่แถบมนู   >developer >network

3. แถบด้านล่างของเวบบราวเซอร์ปรากฏขึ้นมา  เลือกแบบ Network ด้านล่างสุดคลิ๊กที่ Media ให้เป็นแถบสีฟ้า   ต่อจากนั้นคลิ๊ก Reload

4. ต่อจากนั้นคลิ๊กเล่น วีดีโอ  จะปรากฏแถบ url ขึ้น ให้ดูที่ ประเภทของไฟล์เป็น mp4 และขนาดไฟล์ใหญ่  คลิ๊กเลือก แถบ url นั้น เลือก open in New Tab

 

5. ต่อจากนั้นวีดีโอในหน้านั้นก็๗ะเล่นในแทบของเวบบราวเซอร์   คลิ๊กขวา เลือก save video as

 

6. เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการเก็บวีดีโอ และตั้งชื่อวีดีโอ  ต่อจากนั้นคลิ๊ก save เพียงเท่านี้คุณก็จะได้วีดีโอ jw player ที่ต้องการเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เรียบร้อยแล้วค่ะ

 

อัพโหลด mp3 ลงYoutube แสนง่าย

มีใครเคยอยากนำไฟล์เสียง mp3 ลงใน Youtube บ้างไหมคะ  เท่าที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่า Youtube เป็นแหล่งแชร์ไฟล์วีดีโอขนาดใหญ่  แต่ทว่ามันก็มีวิธีในการนำไฟล์เสียงmp3  ลงใน Youtube เช่นกันค่ะ  วันนี้เอาวิธีการที่แสนง่ายในการนำไฟล์ mp3 หรือ ไฟล์ au,midi,mid,m4a,mp4,wav,wma ซึ่งเป็นไฟล์เสียง เอามาลงใน Youtube  รับรองว่าคุณทำได้แน่นอนง่าย ๆ แน่นอนค่ะ
เอาหล่ะค่ะ สิ่งที่คุณต้องเตรียมคือ 1. โปรแกรม Microsoft Powerpoint 2010 หรือ โปรแกรม Microsoft powerpoint 2013 ค่ะ 2. คือ ไฟล์เสียง mp3 หรือไฟล์เสียง au,midi,mid,m4a,mp4,wav,wma  ที่คุณต้องการนำลง Youtube ค่ะ   เอาหล่ะมาเริ่มต้นกันเลยค่ะ

1.เปิดโปรแกรม Powerpoint ขึ้นมา  คลิ๊กไปที่เมนูแทรก >รูปภาพ

2. เลือกรูปภาพที่ต้องการนำมาทำเป็นภาพพื้นหลังในการสร้างวีดีโอที่จะอัพโหลดลง Youtube เลือกได้เลือกแทรก

3. ปรับแต่งรูปภาพตามต้องการ

4.ต่อไปแทรกไฟล์เสียง ไปที่เมนูแทรก >เสียง > เสียงบนพีซีของฉัน 

5.เลือกไฟล์เสียง mp3 หรือไฟล์เสียงอื่นๆ จากคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อแทรกในสไลด์ของ Powerpoint สำหรับเอาเล่นใน Youtube  เลือกไฟล์เสียงได้คลิ๊กแทรก

6.ต่อจากนั้นย่อไคอนเสียงให้เล็กลง ซ่อนไว้ด้านล่างของเฟรม  สังเกตเวลาของไฟล์เสียงที่เล่น เพื่อตั้งค่าการเปลี่ยนสไลด์ของวีดีโอ
7. อาจปรับแต่งสไลด์ด้วยการแทรกข้อความ  หรือเพิ่มรุปภาพเป็น background ได้อีกตามความชอบใจ

8.หลังจากปรับแต่งเสร็จแล้ว แปลงไฟล์นำเสนอเป็นวีดีโอ  โดยการไปที่ ไฟล์ > ส่งออก >สร้างวีดีโอ

9. ตั้งค่าการแปลงวีดีโอให้เหมาะกับการใช้งานบนอินเตอร์เน็ต   ตั้งค่าวินาทีที่ใช้ในการเปลี่ยนแต่ละสไลด์   หากคุณแทรกหลายรูปภาพ  ก็ควรเลือกเวลาที่เหมาะสมในการเปลียนรูปภาพ เพื่อให้เหมาะกับความยาวของไฟล์เสียง mp3 ของคุณ  แต่สำหรับดิฉันใช้ภาพเดียว ซึ่งมีความยาวของไฟล์เสียงจากข้อ 6 เป็น 15 นาทีกว่าๆ ดังนั้นดิฉันจึงตั้งค่าในการเปลี่ยนสไลด์เป็น 16 เพราะสไลด์เดียวจบม้วนเลย ไม่ต้องเปลี่ยน

10. เสร็จแล้วคลิ๊กสร้างวีดีโอ  เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการจัดเก็บวีดีโอ > ตั้งชือให้กับวีดีโอ > บันทึก  ต่อจากนั้นก็รอให้การแปลงไฟล์จากสไลด์นำเสนอเป็นวีดีโอให้เสร็จสิ้น


เสร็จแล้วทดสอบเปิดดูวีดีโอของคุณได้แล้วค่ะ  ต่อการนั้นก็เพียงล็อกอินเข้า Youtube แล้วเลือกเมนูอัพโหลดไฟล์วีดีโอใน Youtube


เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถนำไฟล์เสียง mp3 ลง Youtube ได้แล้วค่ะ  
ปล.ไม่ใช่เฉพาะไฟล์เสียง mp3 ที่คุณสามารถนำมันลง Youtube ได้ ทั้งไฟล์เสียงประเภท au,midi,mid,m4a,mp4,wav,wma  ที่สามาถแทรกใน Powerpoint ได้ก็สามารถนำลง Youtube ได้เช่นกัน    ทดลองเอาเทคนิคง่ายๆ นี้ไปใช้กันดูนะคะ 

คลังสำหรับดาวน์โหลดไฟล์เสียงเพลงและเสียงเอฟเฟคฟรี ๆ

ดิฉันเป็นมือใหม่หัดตัดต่อวีดีโอค่ะ   ดังนั้นจึงเที่ยวตระเวนหาเสียงเพลงมาทำเป็น background และหาเอฟเฟคมาใส่เพิ่มเติม  เผื่อว่าจะทำให้วีดีโอน่าสนใจขึ้น   แต่ทว่าเดี๋ยวนี้ไฟล์เพลงก็ติดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์กันมากมาย  เลยจำเป็นต้องค้นหาเสียงเพลงที่ไม่มีปัญหาในเรื่องลิขสิทธิ์   และก็เจอแล้วค่ะ  คลังไฟล์เสียงที่ใช้งานฟรี ทั้งเอฟเฟคและเสียงเพลง  อยู่ใกล้ๆ นี่เอง

มันคือ คลังไลบรารีเสียงของ Youtube ค่ะ  เพียงล็อกอินเข้าใช้งาน Youtube ผ่าน gmail หรือ Google Account  เลือกไปที่เมนูด้านซ้ายมือ  เมนูสร้าง คลิ๊กเลือกห้องสมุดเสียง   เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เจอไฟล์เสียงและไฟล์เอฟเฟคให้เลือกฟังและดาวน์โหลดได้ง่ายๆ  แล้วค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

รวมเวบไซต์แจกฟรีรูปสวยๆ ใช้ฟรีไม่มีลิขสิทธิ์

วิธีอ่านเอกสารแบบออนไลน์บน Google Drive

ปัจจุบันดิฉันเห็นหลายคนเก็บเอกสารแบบออนไลน์บน Google Drive กันเยอะมาก เอกสาร E-book,video ,หรือไฟล์ application มากมาย  วันนี้ผ่านไปเจอคลัง E-book เป็นหนังสือธรรมะเยอะมาก  หนังสือดีๆ ทั้งนั้น ครั้นจะดาวน์โหลดมาเก็บไว้แล้วอ่านหล่ะก็  คงเสียเวลาหลายวันทีเดียว  ก็เลยหาวิธีอ่านหนังสือเหล่านี้แบบออนไลน์ซะเลย   เป็นวิธีการอ่านแบบออนไลน์ผ่าน Google Drive เนื่องจาก Google Drive สามารถใช้เอกสารร่วมกันได้ จึงเป็นข้อดี  ในการนำโฟลเดอร์ธรรมะที่มีคนแชร์มาเก็บไว้ใน Drive ของตน แล้วก็เปิดอ่านออนไลน์ได้เลย   แต่ในการเปิดอ่านแบบออนไลน์โดยไม่ต้องดาวน์โหลด E-book ดังกล่าวมาเปิดในคอมพิวเตอร์ของเรา  มันก็มีวิธีค่ะ 

โดยเราต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติมสักหน่อย  มีวิธีแสนง่ายดังนี้ค่ะ
1.เปิด Drive ที่ต้องการเปิดอ่านเอกสาร อาจเป็น pdf,ppt,xls,doc,ฯลฯ ก็สามารถใช้ แอพพลิเคชั่นนี้เปิดอ่านได้ค่ะ 
2. ติ๊กเครื่องหมายถูกที่เอกสารที่ต้องการเปิดอ่าน  ไปที่เมนูเพิ่มเติมด่้านบนของ Google Drive >เปิดด้วย > เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่่นเพิ่มเติม

3. ค้นหาแอปพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า Doucment Viewer for Drive   แล้วคลิ๊กที่เชื่อมต่อ

4. กำหนดให้แอปนี้เป็นแอปหลักในการเปิดเอกสาร คลิ๊ก ตกลง

5.คราวนี้เริ่มใช้งานแอปในการเปิดเอกสารใน Google Drive กันค่ะ  ไปที่เพิ่มเติม >เปิดด้วย > Doument  Viewer for Google Drvie

6. คลิ๊ก Login & Authorize เพิ่มใช้งานเปิดเอกสารออนไลน์อ่านใน Google Drive

7.คลิ๊ก ยอมรับ


เพียงเท่านี้เอกสารต่างๆ บน Google Drive ก็จะถูกเปิดออกให้คุณได้อ่านแบบออนไลน์ โดยที่ไม่เปลืองพื้นที่ทรัพยากรของคอมพิวเตอร์ไปได้แล้วค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เปิดไฟล์เอกสาร ไฟล์รูปภาพ แบบออนไลน์โดยไม่ต้องดาวน์โหลด ด้วย Open IT online 

การเปิดไฟล์เสียงเล่นออนไลน์ใน Google Drive

รวมเอกสาร PDF เข้าด้วยกันเป็นไฟล์เดียวด้วย Google Drive 

รวมเวบไซต์แจกฟรีรูปสวยๆ ใช้ฟรีไม่มีลิขสิทธิ์

 

ผ่านไปเจอฟรีเวบไซต์ที่แจกรูปภาพสวยๆ เห็นแล้วติดใจ โดยรวบรวมไว้ถึง 18 แห่งนำไปใช้งานได้ฟรีไม่มีลิขสิทธิ์  เห็นแล้วต้องรีบนำมาบันทึกไว้พร้อมแชร์  ซึ่งมีหลายหมวด ทั้งรูปธรรมชาติ  ภาพเทคโนโลยี  ภาพอาหาร สัตว์โลก แต่ละเวบไซต์มีภาพมากมายให้คุณเลือกใช้  บางเวบค้นหาได้ง่าย  บางเวบต้องค่อย ๆ เลือกค้นไปทีละภาพ แต่ทั้งหมดฟรี  เอาไปใช้งานได้ตามต้องการ  เข้าไปเลือกใช้กันดูค่ะ  รับรองภาพสวยจริง ๆ

• ISO Republic
• The Stocks
• Unsplash
• Death To The Stockphoto
• Splitshire
• Kaboompics
• Gratisography
• Picjumbo
• Magdeleine
• Stockphotos.io
• Photopin
• Imcreator FREE
• Pixabay
• Jay Mantri
• Pexels
• Startup Stock Photos
• New Old Stock
• Open Photo
• Flickr CC-Search
• Creative Commons Search
• Best Stock Photo Free
• Authenticsnaps
• Free Stock Images
• HiResStock
• MMT
• Freeepy
• Creative Platoon

เพิ่มโฆษณาจาก Adsense ใน Google Sites

เคยเรียนรู้การสร้างเวบไซต์ด้วย Google Site มานาน แต่ไม่ได้พัฒนาอะไรเพิ่มเติม สร้างทิ้งไว้ๆ  เคยได้ยินว่าสามารถแปะโฆษณาจาก Adsense ได้   วันนี้นึกอยากจะกลับไปรื้อฟื้นความรู้เก่าๆ พัฒนาและเขียนเผยแพร่ความรู้ที่ตนมี  สำหรับคนที่อยากมีเวบไซต์เป็นของตนและก็ฟรีด้วย  เผื่อเด็กๆที่กำลังเริ่มเข้าใช้งานทางอินเตอร์เน็ต  ดีกว่าจะใช้เวลาทั้งหมดไปเล่นเกมส์หรือเฟสบุ๊คให้เสียเวลาไปเปล่าๆ   หลังปรับปรุงแก้ไขได้สักพัก ก็นึกงงเพราะรูปแบบเดิม ๆได้ถูกปรับเปลี่ยน นอกเหนือจากนั้น Adsense ซึ่งเป็นป้ายโฆษณาจาก Google ที่เป็นรายได้จากการทำเวบหายไปได้ไง  ค้นอยู่นานจึงได้ความว่า  Google เปลี่ยนนโยบายไม่ให้มีการแก้ไขโค้ดโฆษณาใน Adsense ทำให้แปะโค้ดไม่ได้  มิน่า..หลังๆ มาไม่ค่อยเห็น Google Site บูมนัก  แต่เมื่อเสียเวลาค้นไปพักใหญ่ ดิฉันจึงพบวิธีการแปะโฆษณาเพื่อสร้างรายได้จาก Google ในเวบ Google Site วันนี้เอามาร่วมแชร์ค่ะ

ขั้นตอนในการแทรกโค้ดโฆษณาจาก Google Adsesne ใน Google Sites มีขั้นตอนดังนี้ค่ะ

1.นำเคอร์เซอร์ไปวางบริเวณบทความทีต้องการแทรกโค้ดโฆษณา

2.คลิ๊กที่แทรก

3. เลือกแทรกแกดเจ็ตอื่นๆ

 

4. เพิ่ม Gadget โดยใช้ url แล้วคัดลอก url ด้านล่างนี้ไปวางในช่อง ป้อน url หลังจากนั้นคลิ๊ก เพิ่ม

https://gcodeadsense.googlecode.com/svn/release/gCodeAdSense/gCodeAdSense.xml

5.ต่อจากนั้นจะปรากฏหน้าต่างให้เพิ่มรายละเอียดโค้ดโฆษณาจาก Adsense บัญชีของคุณโดยมีรายละเอียดดังนี้

6.ช่อง ad_client  เติมตัวเลขที่เป็น data-ad-client ของคุณลงไป เป็นตัวเลข ในแถบสีเหลืองดังรูปด้านบน

7.ช่อง Adslot เติม ตัวเลข ที่เป็น data –ad –slot ของคุณลงไปในช่อง  โดยเป็นตัวเลขในแถบสีส้มจากภาพด้านบน

8. ช่อง ad-width และช่อง ad_height เป็นช่องเติมขนาดความกว้างและสูงของโฆษณา

9.เลื่อนมาด้านล่าง เป็นการปรับกต่งการแสดงค่าของโฆษณา  ใส่ความกว้าง ความสูง เลือกเป็นเปอร์เซ็นหรือพิกเซล     หากต้องการแสดงชื่อ Gadget ,แสดงเส้นขอบ หรือมีแถบเลือกใน Gadget นี้ก็ติ๊กเครื่องหมายถูกลงไป หากไม่ต้องการก็เอาเครื่องหมายถูกออก หลังจากปรับแต่งเสร็จแล้ว คลิ๊กตกลง

10 ต่อจากนั้นบันทึกบทความดังกล่าว  แล้วดูการแสดงผล Adsense ได้เลยค่ะ

เข้าไปดูผลงานการแปะ Adsense ใน Google Sites ได้ที่ เที่ยวเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา - แบ่งปันบนโลกออนไลน์

ดาวน์โหลดไฟล์แฟลช swf หรือ flv ง่ายๆ บน Google Chrome

สื่อการศึกษาแบบ Interactive โดยส่วนมากมักจะสร้างเป็นไฟล์แฟลช นามสกุล swf หรือ flv เพื่อนำเสนอบนเวบไซต์   หรือไม่ก็พวกเกมส์ต่างๆ ล้วนเป็นไฟล์แฟลช   ดิฉันผ่านไปเจอไฟล์แฟลชที่เป็นสื่อการเรียนน่ารัก ๆ จึงเก็บมาไว้ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ เลยนำวิธีการบันทึกหรือดาวน์โหลดไฟล์แฟลช ที่มีนามสกุล swf หรือ flv บนอินเตอร์เน็ตมาร่วมแชร์ค่ะ   โปรแกรมที่เราจะใช้ก็เพียงใช้เวบบราวเซอร์ Google Chrome นี่หล่ะค่ะ   ตามมาดูวิธีการกันเลยค่ะ

1.ขั้นตอนแรกก่อนใช้ Google Chrome ในการดาวน์โหลดไฟล์แฟลชต่างๆ มาติดตั้งเครื่องมือเป็นตัวช่วยในการดาวน์โหลดกันก่อนค่ะ  โดยเปิดเวบบราวเซอร์ Google Chrome ไปดาวนโหลด Extension ของ Google Chrome ที่มีชื่อว่า FVD Downloader - Chrome Web Store  คลิ๊ก +Free เพื่อเริ่มทำการดาวน์โหลด


2. คลิ๊ก Add เพื่อทำการติดตั้ง  ต่อจากนั้นก็รอให้ Extension ติดตั้งเสร็จ  จะมีไอคอนเล็ก ๆ ปรากฏอยู่ขวามือบน

3. เมื่อเจอไฟล์แฟลช swf หรือ flv ใดที่สามารถดาวน์โหลดได้  ไอคอนจะปรากฏเป็นสีฟ้า  เพียงคลิ๊กที่ไอคอนนั้นก็จะสามารถเลือกดาวน์โหลดไฟล์แฟลชใด ๆ บนอินเตอร์เน็ตได้แสนง่ายด้วยเวบบราวเซอร์ Google Chrome แล้วค่ะ