วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

การตั้งค่า EDGE MODEM ของ AIS DTAC และTRUE

 

aircard และการตั้งค่า edge modem

 

เคยใช้Aircard  มาหลายยี่ห้อแล้ว  ที่ได้ใช้หลายยี่ห้อ เพราะเหล่าบรรดาเพื่อนหลายราย  มักซื้อมาแล้วก็นำมาขอคำแนะนำ ให้ติดตั้งให้   ไม่ใช่ให้สอนการติดตั้งนะ  อย่าเข้าใจผิด  ดังนั้น  จึงมีโอกาสได้ใช้งานหลายยี่ห้อ   แต่วิธีการในการติดตั้งก็คล้าย ๆ กัน  เสียบ aircard เข้าไปแล้วก็คลิ๊ก setup ไม่กี่ที ก็เสร็จ  ต่อจากนั้นก็มักจะคลิ๊ก ต่ออินเตอร์เน็ตได้เลย  เพราะ Aircard ที่ได้มามักจะมีการ setup ค่าต่าง ๆ มาให้เรียบร้อย

แต่ถ้าหากมีปัญหาการติดตั้งหล่ะ   คู่มือเท่านั้นค่ะ จะช่วยได้    หรือหากจำเป็นต้องตั้งค่าการให้บริการในการต่อ internet ลองนำข้อมูลด้านล่างนี้ไปตั้งค่าดูนะคะ  สำหรับใครที่มีปัญหาในการ connect อาจจะช่วยได้

 

AIS

User Name : เว้นว่าง

Password : เว้นว่าง

APN : internet

 

DTAC

User Name : เว้นว่าง

Password : เว้นว่าง

APN : www.dtac.co.th

 

TRUE

User Name : true

Password : true

APN : internet

 

แต่ถ้าหากมีปัญหาการติดตั้งหล่ะ   call center ของแต่ละค่าย  เป็นทางเลือกสุดท้ายค่ะ

  

วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เริ่มต้นใช้ aircard ด้วย oker edge modem

เพื่อนท่านหนึ่งรบกวนสอนให้ช่วยสอนวิธีการ ต่อเน็ตจากมือถือ  เมื่อพิจารณาแล้วก็เลยแนะนำให้ไปซื้อ air card มาใช้  หากต่อจากมือถือเพื่อนคงไม่ได้เพราะ มือถือที่ใช้อยู่ ในยุคไดโนเสาร์  บลูทูธ ก็ไม่มี แถมต่อจากสาย usb ก็ไม่ได้ 

เมื่อแนะนำไม่นานท่านก็ได้ air card รุ่นที่ดิฉันเองไม่เคยรู้จัก ในราคา 1000 ต้น ๆ พร้อม netsim  มาให้  แล้วบอกให้จัดการให้เรียบร้อย  ในที่นี้คือสมัครและสอนวิธีใช้งานต่อ internet ให้เสร็จสรรพ  มาลองดูขั้นตอนกันหน่อยไหมคะ  คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนท่านใด ที่สายสัญญาณโทรศัพท์ หรือ 3g ไม่บังอาจเข้าถึงได้เช่น ที่บ้านดิฉันค่ะ  อำเภอสนม ( สวย ) จังหวัดสุรินทร์

aircard  ker edge modem

ขั้นแรกเปิดใช้บริการ netsim ก่อนค่ะ  ในการใช้บริการก็ขึ้นอยู่กับเครือข่ายที่ใช้นะคะ ที่หน้าซอง package จะมีอธิบายรายละเอียดในขั้นแรกของการใช้บริการ  ดิฉันใช้ ais ก็กด *211#  เพื่อรอรับหมายเลข  พอได้หมายเลขก็จดไว้  เอาไว้เติมเงินค่ะ   ตอนที่เติมเงินไม่จำเป็นต้องถอดซิมจาก aircard เอามาใส่โทรศัพท์นะคะ ถึงจะเสียบ sim ไว้กับ aircard ก็เติมเงินได้จ้า  ในการเติมเงินก็เติมปกติเหมือนมือถือทั่ว ๆ ไป

ขั้นที่ 2 นำ sim เสียบเข้ากับ aircard สังเกตสัญลักษณ์ตอนเสียบได้ค่ะ  หากเข้าได้ก็เป็นอัน ok หากเข้าไปได้ก็พลิกกลับข้างเล็กน้อยเท่าเอง

การใช้งาน edge modem

ขั้นที่ 3 เสียบ aircard เข้ากับตัวเครื่อง note book จะปรากฏหน้าต่างขึ้นมาให้ทำการคลิ๊ก Run autorun.exe ได้เลย   ต่อจากนั้นทำการติดตั้งก็แค่คลิ๊กยอมรับและ next ไม่กี่ครั้งก็ใช้งานได้แล้วค่ะ

 

การตั้งค่า aircard

 

 

ขั้นที่ 4  คือการตั้งค่า   แรก ๆ พอปรากฏหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมาคลิ๊ก connect มันจะเด้งหน้าต่างขึ้นมาให้ตั้งค่า ดังรูปด้านบน  ดิฉันงงไปหมดจะต้องไปตั้งค่าอะไรอีกน๊า เคยใช้งาน egee modem มาหลายยี่ห้อ ไม่เห็นเคยต้องติดตั้ง อะไรมากมายเลยนี่นา  และแล้วก็เลยทดสอบซะเลย เลือก  จากที่มีให้ในตัว edge modem คือ warid เลย 

 

  สถานะการเชื่อมต่อ aircard

 

ขั้นตอนที่ 5 ขั้นตอนสุดท้าย  โอ้โห  connect ได้เรียบร้อย  เฮ้อ โล่งใจไปดี  นึกว่าจะต้องเสียหน้าซะแล้ว  

ความเร็วของ aircard

 

ว่าแต่เพื่อน ๆ ดูความเร็วในการรับส่งข้อมูลดูซิคะ   เห็นแล้วเครียด เมื่อไหร่ อัปสรา จะมีโอกาสใช้เน็ตความเร็วสูง หรือ 3G กับคนอื่นเค้าบ้างหล่ะเนี่ย

วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ตอบคำถามในเวบบอร์ดให้ทันใจต้องอาศัย Make Link

มีเวบบอร์ดที่มักจะเข้าไปค้นหาความรู้บ่อย ๆ ก็เป็นเวบบอร์ดเกี่ยวกับพุทธศาสนา  อย่าคิดว่าเหลือเชื่อหากคนบนโลกออนไลน์จะสนใจคำสอนของพระพุทธศาสนา  เพราะว่าปัจจุบันคำสอน และผู้รู้  รวมทั้งแหล่งข้อมูลมากมาย  อยู่บนโลกออนไลน์เรียบร้อยแล้ว  หากจะค้นแค่คำว่า การนั่งสมาธิ  Search engine เช่น google หรือ yahoo ก็สามารถนำทางเราไปได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที เมื่อเข้าไปเป็นสมาชิกของเวบบอร์ด  ที่แน่ ๆ มักจะมีทั้งคำถามและคำตอบ ในเวบบอร์ดนั้น ๆ หลาย ๆ ครั้งที่ต้องอ้างอิงข้อมูลคำตอบหรือคำถาม  โดยการโพสต์ลิงค์ที่เป็น url ลงไปด้วย  นอกจากอ้างอิงแล้ว ยังทำให้ผู้ต้องการคำตอบ ค้นหาข้อมูลได้มากขึ้น  เอาเป็นว่า Post ลิงค์ลงไปเพิ่มความกระจ่างในกระทู้นั้น ๆ ได้แน่นอน ขอแอบกระซิบนิดหนึ่งว่า อัปสราได้ผู้เยี่ยมชมบล็อกเพิ่มขึ้นก็ด้วยวิธีนี้ค่ะ

 การวางลิงค์ในเวบบอร์ด

สังเกตว่าทุกครั้งที่ต้องตอบคำถามโดยการอ้างอิงมักจะต้อง copy url มาแล้วใส่ลงในช่องให้เติมลิงค์   รูปภาพ วีดีโอ หรือแม้แต่ emotion icon ก็เช่นกัน  ยุ่งยากไป  ว่าไหม ?

วันนี้ดิฉันเอาเครื่องมือตัวหนึ่งมานำเสนอ เครื่องมือนี้ช่วยให้งาน post ลิงค์ในเวบบอร์ด  เวบไซต์  หรือแต่ใน comment ของบล็อกให้เป็นเรื่องง่าย  เครื่องมือตัวนี้ชื่อ Makelink ค่ะ

 

image

 

ลองดูตัวอย่างนะคะ  ดิฉันอยากเอาบทความเรื่อง การตั้ง wordpress ให้สามารถใช้กับ windowslive writer เขียนบทความ  วางในเวบบอร์ด ให้เป็นแหล่งอ้างอิง  ดิฉันสามารถคลิ๊กขวาที่หัวข้อบทความ  เลือก Make link แล้วเลือก Forum  code เพราะเป็นการวางลิงค์ในเวบบอร์ด หรือ Forum นั่นเอง ต่อจากนั้นไปวางในเวบบอร์ด   โดยคลิ๊กขวา เลือกวางได้เลย

image

จากรูปด้านบนเป็นการแสดงผล  ผู้ชมสามารถคลิีกที่่ข้อความดังกล่าวเพื่อเปิดเข้าไป url เพื่ออ่านเพิ่มเติมได้   เรียกว่า text link หรือการทำลิงค์โดยเป็นตัวอักษร  ผู้อ่านสามารถเข้าใจว่าลิงค์นี้เป็นเรื่องอะไร  แทนที่จะวางเป็น

 http://aphsara.blogspot.com/2011/10/wordpress-windowslive-writer.html

ซึ่งนอกจากจะยาวเหยียดแล้วยังไม่น่าคลิ๊กเข้าไปอ่าน เพราะไม่สื่อความหมายว่าลิงค์นี้คืออะไร

หากเป็นเวบบล็อกก็อาจจะเลือกเป็น html code  แม้แต่ลายเซ็นในเวบบอร์ดดิฉันก็เลือกเป็น html code  เพราะไม่รู้ว่าว่าจะสร้าง code อย่างไร ทำได้แค่ลากแล้ววาง smile_wink

 

การตั้งค่า Makelink

 

หลังจากทดลองวิธีการใช้งานวางลิงค์ ไม่ว่าจะเป็นรุปภาพ หรือวีดีโอในเวบบอร์ด เราก็สามารถสร้าง code เอง พอถึงเวลาก็แค่เลือกวิธีสร้างลิงค์แบบใดแบบหนึ่งที่เราต้องการ และสามารถเลือกวาง ก็ใช้ได้ในเวบบอร์ดได้เลยค่ะ

 

การสร้างลิงค์จาก Make link

ลองดูตัวอย่างดิฉันเลือก สร้างลิงค์สำหรับวางรูปภาพ โดยเลือก Makelink > picture หัวข้อ picture นี้ดิฉันเขียน code เองค่ะ

 

image

 

ต่อจากนั้นเอาไปวางในเวบบอร์ด โดยคลิ๊กขวา เลือก วาง

การใช้งาน Makelink

 

 

คลิ๊กเลือกดูการแสดงผลค่ะ เรียบร้อย ต่อไปนี้วงลิงค์ข้อความ รูปภาพ หรือแม้แต่วีดีโอในเวบบอร์ด ก้แค่คลิ๊กขวาแล้ววาง ง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ 

 

ดาวน์โหลด Makelink

 

ใครสนใจดาวน์โหลด Make Link :: Add-ons for Firefox ไปทดลองใช้

ตั้งค่า wordpress ให้สามารถใช้ windowslive writer เขียนบทความ

 

วันนี้ก็เช่นกัน  ได้ไปสมัครเขียนบทความใน wordpress  ถึงแม้โดยปกติจะเขียนบทความใน บล็อกเกอร์ ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ใช่ว่าจะละเลยค่ายอื่น ๆ ซึ่งหลายเวบที่ให้บริการเขียนบทความมักจะใช้รูปแบบของ cms ในรูปแบบของ wordpress เป็นส่วนใหญ่ เช่น blog.com,blogth,lanpanya,onblogme ฯลฯ บางที่เป็นบริการต่างประเทศ บางที่เป็นบริการของประเทศไทย  ดิฉันมักจะสมัคร แทบทุกที   จุดประสงค์ก็เพื่อหา backlink กลับมาที่เวบบล็อกของตนนั่นเอง

image

 

เมื่อสมัครเข้าใช้บริการปรับแต่งหน้าตาของ wordpress เสร็จแล้ว  ทีนี้ถึงเวลาใช้ windowslive writer โปรแกรมสุดโปรดที่ดิฉันเองใช้เขียนและ publish บทความตลอดมา  แต่ เมื่อ add blog ใน windowslive writer กลับแจ้ง error ขึ้นมา ไม่สามารถ add บล็อกเพื่อใช้งานได้  ทำให้รู้สึกแปลกใจ เพราะใน รูปแบบของ wordpress สามารถใช้กับ windowslive writer ได้เสมอ   และแล้วความทรงจำก็กลับคืนมา  นึกขึ้นมาได้  หากต้องการให้ wordpress  ใช้ windowslive writer ในการเขียนบทความ ต้องมีการตั้งค่าก่อนค่ะ   โดยหากต้องการให้ wordpress สามารถใช้งานร่วมกับ windowslive writer ให้เข้าไปที่ dashboard >settings>writing> ไปดูที่เมนู remote publishing

ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกหน้า atom publishing  protocal แ ละ xml-rpc  แล้วบันทึกการตั้งค่า  หลังจากนั้น  add blog  ของ wordpress ใน windowslive wirter อีกรอบ

การใช้ windowslive witer เขียบทความใน wordpress

ฮุ้เร่ย์  ผ่านฉลุย เรียบร้อยแล้ว  นี่คือขั้นตอนในการตั้งค่า wordpress ให้สามารถใช้ร่วมกับ windowslive writer ค่ะ

 

 

 

 

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วายร้าย ไวรัส Win32.Sality

ไปขอสื่อการศึกษาจากเพื่อนท่านหนึ่งมา  ท่านบอกว่าเก็บไว้ใน external harddisk แต่่ว่าปัจจุบันมันเปิดไม่ได้  โปรแกรมสแกนไวรัสมันแจ้งว่ามีเชื่อไวรัส  ชื่อซะหวานแหวว Sality  เห็นโปรแกรมสแกนแจ้งขึ้นปิดอย่างไรมันก็ไม่ยอมให้เปิด external harddisk ตัวนี้  ก็เลยขอมาซะเลย  เอามาหาวิธีแก้ไขให้ได้ 

ค้นหาจากอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติมว่าไวรัสตัวนี้มีข้อมูลชื่อแซ่ ดังนี้

 

Win32/Sality.NAR

Aliases:   Virus.Win32.Sality.aa (Kaspersky), Virus:Win32/Sality.AM (Microsoft), W32/Sality.ah (McAfee)  

Type of infiltration:   Virus

Size:   Variable

Affected platforms:   Windows

Signature database version:   3267 (20080714)

Short description:   Win32/Sality.NAR is a polymorphic file infector.

 

พอทราบชื่อแซ่แล้วก็หาวิธีแก้ไขหล่ะสิ   ค้นหาเกือบค่อนวันทดลองแล้วทดลองอีก ไปได้ผลอยู่ที่นี่ค่ะ  โปรแกรมสแกนไวรัส Sality เป็นของค่าย AVG  หลังจากทดสอบดาวน์และแสกน ซึ่งก็ใช้เวลานานพอดู  เพราะว่า external harddisk ค่อนข้างมีเนื้อที่มาก 

ผลปรากฏว่าเปิด external harddisk ได้ แต่ว่า เปิดมามีเนื้อหาไฟล์อยู่แค่ไฟล์เดียว  แว้บไปดูที่ properties ของ external harddisk ปรากฏว่ามีการใช้งานเนื้อที่ไปเกินครึ่ง  แต่ว่ามองไม่เห็นไฟล์ข้อมูล ดังนั้นจึงใช้วิธีการแก้ไข hidden file ผลปรากฏว่าหลังจากนั้นก็สามารถเปิด external harddisk ตัวนี้ได้   และได้สื่อการสอนจากเพื่อนมาเพียบค่ะ

เพื่อนท่านใดเจอปัญหาเช่นดิฉันทดลองดาวน์โหลดโปรแกรมสแกนไวรัส Sality ไปทดลองใช้ดูนะคะ

วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อ้าว ! ทำไมมองไม่เห็นไฟล์ข้อมูล hidden file


ถ่ายรูปเสร็จก็ได้ภาพสวย ๆ แน่ ๆ อยากเอาอวด อยากโชว์  ไปเอามาอวดผ่านเวบบล็อกดีกว่า  พอคิดได้ก็ดึงเอา memory stick จากกล้องถ่ายรูป เสียบปัีบเข้าที่โน๊ตบุ๊ค  แล้วเรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น   ไม่ใช่ว่าไปเจอคลิปหลุดดาราคนไหนใน memory stick หรอก  ก็แค่เปิดมาแล้ว ไม่มีไฟล์ใน memory card สักไฟล์เดียว  แต่ว่าดูใน propoties กลับเห็นว่า หน่วยความจำใน memory card มีการถูกใช้ไป  ซึ่งแสดงว่ามีไฟล์รูปภาพใน memory card แน่ แต่ทำไมนะคอมพิวเตอร์มันถึงตาบอดมองไม่เห็นไปได้

เพราะอยากทดสอบ  จึงได้เข้าไปขออนุญาตทดสอบกับโน๊คบุคของเพื่อนร่วมงาน  ผลปรากฏว่า  โน๊ตบุ๊คของเพื่อนดันมองเห็นไฟล์ใน memory card ของเราได้  แต่โน๊ตบุ๊คเรากลับมองไม่เห็น  พยายามค้น ๆๆๆ เห็นหลายเวบบอกว่าเป็นที่ไวรัส  ก็ควานหาจนเหนื่อยอ่อน แสกนสารพัดยี่ห้อ ของตัว antivirus ทำยังไง ๆๆๆๆ มันก็มองไม่เห็นอยู่ดี

เมื่อค้นไม่เจอก็เลยยอมพักยก  ไม่ใช่ยกธงขาวยอมแพ้นะ  แค่ขอค้นหาข้อมูลก่อน  แต่แล้วหนึ่งไปเจอเวบบอร์ดคุยเรื่องสัพเพเหระ  แต่ทว่าไปเจอคำว่า hidden file  เลยได้เข้าไปอ่าน และแล้วคำตอบก็วิ่งมาชนเข้าให้เปรี้ยง  เจอละ ( เสียดายจริงๆ จำเวบบอร์ดนี้ไม่ได้แล้ว )

วิธีการโชว์ไฟล์ที่ถูกซ่อน ( hidden file ) ทำไม่ยากเลย

เปิดเครื่องคอมพิวเตอรืขึ้นมา  ไปที่ > tool> folder option

 

การแก้ไข hidden file

 

ที่เมนู folder option > ดูที่ view

 

hidden file

ให้เอาเครื่องหมายถูกออก หน้าช่อง   hide extentions for knowed file type 
                                      และ            hide protect operating systems file

เมื่อเอาออกเสร็จแล้วคลิ๊ก apply และ ok

ต่อจากนั้นลองเปิดดูใหม่อีกที   นั่นไงเจอแล้วหล่ะ   ใช่ไหมหล่ะ

วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ย่อขนาดรูปภาพแบบฉับไวกับ FAST IMAGE RESIZER V0.98

โดยนิสัยจะมีกล้องติดตัวแทบทุกขณะ  ไม่ใช่กล้องถ่ายรูปยี่ห้อแพงลิบลิ่วหรอก  แค่กล้องราคาไม่กี่บาท แต่ว่าชอบติดตัวไว้  เผื่อว่าจะมีโอกาสเก็บภาพต่าง ๆ ได้ทันใจ    พอได้มาแล้วก็ต้องอวด   นิสัยเบอร์ห้า บ้าเห่อ ไม่แพ้ใครหรอกค่ะ  ถึงตอนที่เอาอวด โดยส่วนมากก็มักจะอวดผ่าน facebook,twitter,hi5 หรือไม่ก็อวดผ่านเวบบล็อกนี่หล่ะ   อวดผ่าน social network เหล่านี้เป็นส่วนใหญ่ มันติดปัญหาตรงที่ว่าพอถึงตอนอัพโหลดรูปภาพนี่สิ  เครียดเลย  เนื่องจากรูปภาพทีอัพโหลดบางครั้งมีความละเอียดมาก  พอละเอียดมากไฟล์ใหญ่ อัพโหลดช้า  ถึงขนาดโค ตะ ระ ช้าเลยทีเดียว  ที่ต้องใช้คำขนาดนั้นเพราะดิฉันเองเป็นบล็อกเกอร์ ที่ใช้เน็ตจากมือถือความเร็วแค่ 115 kb ค่ะ

เมื่อความเร็วเน็ตต่ำขนาดนี้ก็ต้องอาศัยตัวช่วย  ทุกครั้งที่ต้องอัพโหลดรูปภาพ ก็เลยต้องลดขนาดภาพลงซะหน่อย  ถือซะว่าเราไม่ได้อัพโหลดไปเพื่อขายรูป ๆ นั้น แค่อวด  หรือประกอบบทความเพื่อเพิ่มความเข้าใจให้กับผู้อ่าน ตัวช่วยลดขนาดภาพตัวนี้เป็น freeware ค่ะ มีชื่อว่า Fast image resizer

ย่อรูปภาพ

หากต้องการจะย่อรูปภาพรูปใด  ก็แค่กำหนดความละเอียดของรูปภาพให้เล็กลง  หลังจากนั้นก็ลากไฟล์มาวางตรงกึ่งกลางของโปรแกรม ดังรูป รอสักครู่ไฟล์รูปภาพดังกล่าวจะถูกย่อให้เล็กลงมีขนาด Resolutions เท่่าที่เรากำหนด

ส่วนประกอบของโปรแกรม fast image resize

 

ส่วนรูปภาพที่ย่อเสร็จจะอยู่ที่ใดให้คลิีกที่ปุ่ม Options ขึ้นมาแก้ไข 

Output  Quality ที่นี่กำหนดคุณภาพของรูปภาพ

ที่ Destination อยากให้ รูปภาพที่ย่ออยู่ที่ folder ใด กำหนดที่เมนูนี้ค่ะ

Output filename คือชื่อของรูปภาพหลังผ่านการย่อขนาด

Rotation จะให้รูปหมุนหรือไม่

นอกนั้นก็เป็นเมนูอื่น ๆ เพิ่มเติม

fast image resizer  นี้อ่านได้ทั้ง  JPG, BMP, GIF, PNG, TIFF และ HD Photo (.wdp, .hdp) ไฟล์ แต่เขียนในรูป JPG,BMP หรือไม่ก็ png ไฟล์

สนับสนุน    : Windows XP, Windows Vista, Windows 7 และ  Mac OS X 10.6

ลิขสิทธิ์        ฟรีแวร์

ขนาด     443 kb

คลิ๊กเพื่อ   ดาวน์โหลด  Fast Image Resizer v0.98

หลังจากนั้นอย่าลืม upload และแชร์ด้วยการใช้ อัพโหลด ดาวน์โหลด ใน social network  นะคะ

การใช้งาน fast image resizer

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บทความสด ๆ ส่งตรงถึงคุณ ด้วยบริการ Google Reader

ใครมีเวบบล็อกขาประจำบ้างคะ  ชอบลีลาการเขียน หรือว่าการสื่อสารของใครกับบ้างเอ่ย ? ดิฉันเองมีทั้งเวบบล็อก เวบไซต์  เวบบอร์ด รวมทั้งแหล่ง shareไฟล์เอกสาร เช่น 4shared   หรือแม้แต่ youtube หลาย  ช่อง เลยทีเดียว    เอาไว้เก็บความรู้เพื่อประเทืองปัญญาอันน้อยนิดที่มีอยู่   แต่ใช่ว่าทุกวันจะตระเวนกลับไปนั่งอ่านตามเวบเหล่านี้นะคะ  หากทำเช่นนั้นจริง ๆ วัน ๆ คงมิต้องทำอะไร  เพราะที่โปรดมีเยอะซะขนาดนั้น

สัญลักษณ์ feed icon

                                      ตัวอย่างสัญลักษณ์ feed ตามเวบบล็อกหรือเวบไซต์

ดิฉันมีตัวช่วยค่ะ   เพราะว่าตามเวบไซต์ เวบบล็อก เวบบอร์ดเหล่านี้มักจะมีบริการ feed เพื่อบอกข่าวกับสมาชิกเมื่อมีการอัพเดทข้อมูลใหม่ ๆ เพราะฉะนั้นดิฉันก็แค่สมัครเป็นสมาชิกด้วยการรับ feed เหล่านั้นมาแล้วใช้ตัวช่วยอ่าน feed  คือ Feed Reader นั่นเอง   วิธีการก็แค่คลิ๊ก Subscribe  to rss feed หรือคลิีกที่ icon ของ feed ก็จะปรากฏหน้าต่างให้เราเลือกเครื่องมืออ่าน feed

image

 

                                            เหล่าบรรดาเวบที่ให้บริการอ่าน feed

 

เครื่องมืออ่าน feed มีมากมายให้เลือก ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นสมาชิกของที่ไหนบ้าง  ดิฉันเลือกใช้ Google ค่ะเพราะเป็นสมาชิก ของ Google อยู่แล้วหรือหากใครใช้ อีเมล์แบบ offline ของ  windowslive   ละก็ copy  url  link  ของ feed  ไปวางในเมนู feed ไอคอนสีส้ม ๆ นั่นได้เลยค่ะ    บางคนเคยใช้ feed จากหน้าจอ บราวเซอร์อาจจะบอกว่า จะใช้บริการบนเวบ ไปทำไมให้ยุ่งยาก  แต่ว่าถึงตอนฉุกเฉินต้อง format เครื่องหน่ะสิคะ  มันเอากลับคืนมาไม่ได้  สู้เก็บ url  feed เหล่านี้ไว้กับเวบให้บริการอ่าน feed จะดีกว่า  

ทดสอบเลือกเครื่องมือในการอ่าน feed เป็น Google  ดูนะคะ คลิ๊กตรงไอคอน + Google จะปรากฏหน้าต่าง

  image  แสดงรายละเอียดของ url feed แห่งนี้  คลิ๊กเลือก subscribe with Google

image

ต่อจากนั้น url feed ก็จะถูกเก็บไว้ที่ Google Reader ที่เราเป็นสมาชิกอยู่  โดยการเลือก Subscribe  ทุก ๆ ครั้งที่มีการอัพเดทบทความ  วีดีโอ รับรองได้ว่าไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหวของบล็อกหรือเวบโปรดของเรา   แบบนี้สะดวกกว่ากันเยอะ  เพื่อน ๆ ว่าจริงไหม  หากจะถามว่าสมัครใช้บริการอย่างไร  ก็แค่เพื่อน ๆ มี e-mail ของ Gmail  หรือมี account ของ Google account  ก็สามรถ Login เข้าใช้บริการได้แล้วค่ะ   เอ่อ…ว่าแต่ทดลอง subscribe บทความจาก อัปสราออนไลน์ไปไว้อ่านก่อนดีไหมเอ่ย ?